ถือว่าหลายท่านมีความสนใจ มั่นใจว่าผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจจะรู้จัก ขำขันมีชื่อเสียงชั้นต้นของเมืองไทย อย่าง ‘กล้วย เชื้อเชิญยิ้ม’ หรือ ‘ฐานุเหล่ากอ ศักดาธนาวัฒน์’

ที่เคยฝากผลงานไว้อย่างมากมายในวงการบันเทิง เช่น ‘ลูกพี่ลูกน้อง’ , ‘อาม่าอะพาร์ตเมนต์’ แต่ผลงานที่สร้างชื่อ

แล้วก็เป็นที่จดจำ คือ ละครซิทคอมเรื่อง ‘เฮง เฮง เฮง’ ในบทของ “อาฮวด” แต่ในปัจจุบันได้ลาหน้าจอไปแบบไม่มีชั่วนิรันดร์

เชื่อว่าเด็กหลายๆคนโตมาพร้อมกับซิทคอมเรื่องนี้ ซึ่งช่วงหลังๆอาจจะหายหน้าหายตาไปจากจอทีวี ไม่ค่อยมีผลงานให้เห็นกันสักเท่าไหร่

‘น้ากล้วย’ ก็ได้เปิดใจว่า จริงแล้วไม่ได้หายไปไหน แต่ด้วยวัยที่มากขึ้นก็เลยรับงานน้อยลง เลือกรับงานที่ชอบ เพราะต้องการเวลาพักผ่อนมากขึ้น

นอกจากนี้ ‘น้ากล้วย’ ก็ยังได้อัปเดตเรื่องธุรกิจให้ฟังด้วยว่า ตอนนี้กำลังทำธุรกิจแฟรนไชส์ “ลูกชิ้นหมูอัมพวา by น้ากล้วยเชิญยิ้ม”

ซึ่งก็กำลังไปได้ดี แต่ยังไม่ได้โปรโมตอะไรมากนัก หวังว่าจะเป็นธุรกิจที่ทำไว้ให้ลูกหลาน โดยมีสนนราคาขายลูกชิ้นเพียงไม้ละ 3 บาท เท่านั้น

‘น้ากล้วย’ ยังได้พูดถึงความแตกต่างของวงการตลกสมัยก่อนและปัจจุบันด้วยว่า สมัยนี้ตลกรุ่นใหม่จะขาดเวทีในการฝึกฝน เพราะสมัยก่อน

จะมีค่าเฟ่ให้ได้ฝึกฝน แต่น้ากล้วยก็ยังฝากถึงคนที่อยากเป็นตลกรุ่นใหม่ว่า ให้อดทน แล้วก็หมั่นฝึกฝน ให้ดูจังหวะการเล่นตลกจากคนรุ่นเก่าๆ

และก็ที่สำคัญต้องตลก และอย่าลืมที่จะสุภาพ อีกทั้งล่าสุด เจ้าตัวได้หันมาทำธุรกิจเสริมอีกหนึ่งอย่างคือซอสผัดกะเพราออนไลน์อีกด้วย
“จริงๆเป็นคนชอบทำธุรกิจ ทำนั่นทำนี่สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างตามความถนัดของเรา เราเป็นศิลปินอาจจะไม่ได้เก่งในเรื่องของการทำธุรกิจเท่าไหร่

แต่เรามองการไกลว่า เมื่อทำแล้วสำเร็จเราเป็นมรดกตกทอดให้ลูกให้หลาน การเป็นศิลปินมอบให้ลูกไม่ได้นะนอกจากเป็นพรสวรรค์ของเขาเอง

เราก็เลยทำธุรกิจซอสผัดกระเพรา เป็นเราปรุงรสกระเพราไว้ให้แล้วในขวด ง่ายมากเป็นเราเป็นคนชอบกินผัดกระเพรา ใครนึกอะไรไม่ออกก็จะสั่งผัดกะเพรา

คือผมก็ทำอะไรที่ผิดผิดถูกถูก ลองผิดลองถูกมาเยอะ แต่เราไม่ท้อ ความท้อมันจะทำให้เราเ สี ยขวัญเสียกำลังใจและไม่อยากไปต่อไม่อยากทำต่อ อย่าไปท้อมัน

แต่เราจะต้องเริ่มลองมันด้วยวิธีใช้ทุนให้น้อย เริ่มจากสิ่งเล็กๆไปก่อน ถ้าเรามองว่ามันไปได้ค่อยขยายแล้วลงทุนให้มันเยอะขึ้น ค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปคิดแล้วทำใหญ่เลย”