
Uncategorized
เผยชีวิตรัก พรีม รณิดา
พรีม รณิดา นางเอกมากความสามารถ โดยพรีมได้เผยถึงชีวิตของเธอ “มันเป็นจุดที่เลี้ยงครอบครัวอยู่คนเดียว ปฏิบัติงานไปด้วย เรียนไปด้วย

พวกเราสามารถซื้อบ้านหลังใหม่ ซื้อรถคันใหม่ได้ พรีมเริ่มทำงานตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี ผู้คนจำนวนมากบางครั้งอาจจะมีความรู้สึกว่ามันทำให้พวกเราสูญเสียขณะของความเป็นวัยรุ่น

เพราะตั้งแต่พ่อกับแม่แยกทางกัน ก็ตัดสินใจไปสู่วงการบันเทิง เพราะหวังเพียงแค่ต้องการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว พรีมภูมิใจนะคะ

มันเป็นสิ่งที่ทำให้พรีมมีแรงขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกว่าจริงๆแล้ว เราเก่งและแข็งแรงกว่าที่เราคิด” ได้ทำความเข้าใจและเติบโตขึ้นในทุกตอนของชีวิต

“ทั้งคุณพ่อ-คุณแม่ เขาจะเลี้ยงพรีมในแบบที่ไม่อยู่ในกรอบมาก ให้ได้ลองไม่ถูก-ลองถูก ให้ได้เจ็บบ้าง ให้ทดลองทำเอง จะได้เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

ไม่ว่าจะตัดสินใจใดๆ พรีมจะปรึกษาพวกเขา ซึ่งเขาไม่ใช่ผู้ที่ให้คำปรึกษาเต็มร้อย แต่เขาจะแนะนำส่วนหนึ่ง และก็อีกส่วนหนึ่งส่วนใดก็จะสนับสนุน

ให้พรีมได้คิดด้วยตัวเอง เขาค่อนข้างเคารพการตัดสินใจของพรีม จริงๆทั้งสองคน คำสอนก็จะคล้ายๆกัน จะนับถือในวิธีการทำงานของพรีม

รอสอนให้พวกเราไม่ลืมตัวเอง เหมือนให้ทราบดีว่าเราเป็นใครมาจากไหน ให้รู้แบลกกาวด์ชีวิตตัวเอง ซึ่งป๊ะป๋า-ม่าม้า เขาจะพยายามรักษาตรงนี้เอาไว้”

คอยดูแลพี่ชาย “พรีมเกิดมาก็มีพี่ชายแล้ว พี่ชายของพรีมเป็นดาวน์ซินโดรม พรีมไม่เคยคิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ จริงๆพี่ชายพรีมสามารถดูแลตัวเองได้ทุกอย่าง

ไม่ต้องมีการรักษาที่พิเศษ เขาสื่อสารได้ช้ากว่าผู้อื่นเท่านั้น” ที่ผ่านมาไปอเมริกาช่วงปีที่แล้วก็เหมือนได้ไปท่องเที่ยวเปิดความสดใส

“มีหลายคนทักเหมือนกันจ้ะว่ากลับมาแล้วดูเปลี่ยนไป แต่จริงๆอย่างที่บอกว่าอินเนอร์ข้างในพรีมเป็นแบบนี้มาครู่หนึ่งแล้ว ตั้งแต่เรียนจบเอ่ยอะไรเอย

พวกเรารู้จักตัวเองมากขึ้นและค้นหาตัวเองไปเรื่อยไม่ได้คิดเลยนะว่าตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลง หรือจุดโฟกัสที่คนจะคิดว่าเราเปลี่ยนไป

ก็แอบฉงนใจเช่นเดียวกัน แต่ก็เป็นได้พอราวกับเราไปเติมเต็ม ไปทำอะไรที่มีความสุข” ไปกับคนพิเศษด้วยหรือเปล่า “อันนั้นไม่เกี่ยวเลย

ก็มีมาตลอดอยู่แล้ว ถามว่าเค้าไปมั้ยก็ไปด้วยจ้ะ แต่ด้วยสถานที่ด้วยบรรยากาศต่างๆมันตื่นเต้น เพราะพวกเรามิได้ท่องเที่ยวนานๆ” ไม่เปิดตัวไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นใคร

“เนื่องจากว่าพรีมรู้สึกว่าเวลาลงรูปหรือพรีเซนต์เรื่องอะไรก็อยากจะนำเสนอเรื่องงานหรือเรื่องตัวเอง เค้าเป็นคนเดินดินด้วย ถ้าเกิดเราไม่ลงรูปก็ไม่มีใครรู้ว่าเค้าเป็นใครค่ะ”
