หลายๆคนคงรู้จัก หมอลำโอปป้ามากความสามารถอย่าง ลำเพลิน วงศมือ เป็นอย่างดี และคงทราบถึงความลำบากในการสู้ชีวิต

ก่อนเข้ามาเดินบนถนนสายดนตรี แต่ใครจะคิดว่าชีวิตช่วงหนึ่งของลำเพลิน เคยผ่านเวทีผ้าใบและก็สังเวียนหมัดก่อนชีวิตพลิก

สู่ความปัง จนได้รับฉายา #หมอลำร้อยล้าน อย่างเดี๋ยวนี้ ด้วยความที่เป็นหนุ่มมากความสามารถแล้วก็สู้ชีวิต อีกหนึ่งอาชีพที่

ลำเพลิดเพลิน วงศกร ต้องเลือกในช่วงหนึ่งของชีวิตคือ อาชีพนักมวย ที่ต้องแลกกับการฝึกหนัก เจ็บตัว ค่าแรงงานน้อย ในขณะนั้น

นอกเหนือจากชกมวย ลำเพลิน วงศกร ก็เริ่มหัดเล่นเครื่องดนตรี เป็นเด็กคอนวอยในโรงเรียนของวงโปงลาง เอาง่ายๆว่า ทำอะไร

แล้วได้เงิuทำหมดไม่เคยเกี่ยง หลังจากนั้นก็เริ่มขยับมาร้องเพลงในวงโปงลาง ร้องครั้งแรกเพี้ยน เลยหันมาชกมวยรับจ้างต่อ

ยึดอาชีพนักมวยไปได้ครู่หนึ่ง ก่อนความปังมาเยือน บวกกับที่คนแก่มองเห็นความสามารถทางดนตรี ทำให้ ลำเพลิดเพลิน วงศแขน

ได้เดินเข้ามาสู่ถนนหนทางสายดนตรี กลับชีวิตจากเวทีผ้าใบ มาโลดแล่นบนเวทีแห่งเสียงเพลงอย่างเวทีหมอลำ และก็ครอบครัวอาจจะ

ไม่พร้อมหน้ากัน ด้วยเหตุว่าคุณพ่อและคุณแม่ แยกทางกัน และ “ลำเพลิน” ได้ไปอยู่กับคุณแม่ แม้ว่าจะเป็นตอนสั้นๆ

แม้กระนั้นพอได้เห็นชีวิตของแม่ที่ลำบาก ก็เข้าใจสถานการณ์ครอบครัวมากขึ้น ถึงจะรักแต่ก็ไม่สามารถที่จะเลี้ยงลูกคนแรกได้อย่าง

สุดกำลัง มีทางเลือกเดียวก็คือ ต้องส่ง “ลำเพลิน วงศกร” ให้คุณตากับคุณยายที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นคนช่วยเลี้ยงแทน ตา

เป็นราวกับเข็มทิศที่ทำให้ชีวิต ให้ “ลำเพลิน” ดำเนินไปอย่างไม่วอกแวก และ อยู่ในแสงไฟเสมอ เมื่อไปสู่ชีวิตตอน

เรียนมหาวิทยาลัย ความสามารถพิเศษของ “ลำเพลิดเพลิน” เริ่มถูกคนมองเห็น มีค่ายเพลงหลายค่ายพอใจติดต่อ “ลำเพลิดเพลิน” จาก

อาชีพนักร้องที่เคยไกลห่างความฝัน เริ่มจะแปลงเป็นความเป็นจริงขึ้นเรื่อยแต่สิ่งที่กังวล คือ มันเป็นเรื่องใหม่ ชีวิตใหม่

รวมทั้ง เขายังไม่มั่นใจพอที่จะเลือกเอง แน่นอนว่าคนที่ช่วยตัดสินใจได้ดีที่สุดก็คือ “คุณตา” นั่นเอง