ถ้าหากย้อนกลับไปในช่วง 40-50 ปีที่แล้ว ชื่อเสียงของ ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ เคยโด่งดังเป็นอย่างมากถึงแม้จะฝากผลงาน

ไว้เพียงแค่ 30 เรื่อง แต่ฝีมือการแสดงของเธอก็ยังคงเป็นที่จดจำชองใครหลายคนในยุคนั้นไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว โดย

ปัจจุบันนี้ ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ ในวัย 72 ปี อาศัยอยู่กับทายาทบุตรชายทั้ง 3 ที่เกิดกับอดีตสามี ‘ไมตรี บุญสูง’ อดีต

เซียนพระชื่อดัง แต่ได้แยกทางกัน ก็มีหลายเสียงแว่วว่าปัจจุบัน ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ แต่งเป็นภรรยาของเศรษฐีเมืองปักษ์ใต้

อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต และผู้คนจำนวนมากก็เคยพบเจอ ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ อยู่ที่จังหวัดภูเก็ตด้วย ทั้งนี้ทางด้านชีวิตในวงการงานแสดง และวงการ

บันเทิงที่ผ่านมานั้น ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ เริ่มเข้าสู่วงการด้วยกันประกวดนางงามหลายเวที เริ่มแรกโดยมี ‘คุณชุลี ใจยงค์’

เจ้าของร้านเสริมสวย ‘ดาราพร’ ได้ส่งเธอไปประกวดนางงาม ‘บพิตรบอล’ ในนามของ ‘อรัญญา ดาราพร’ และได้คว้า

ตำแหน่งเป็นครั้งแรก ต่อมา ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ ได้ตำแหน่ง ‘นางงามสงกรานต์วิสุทธิกษัตริย์’ และเวทีที่สร้างชื่อด้วยใบหน้า

อันคมสวยเป็นเอกลักษณ์ ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ ได้ตำแหน่งรองนางสาวไทย อันดับที่ 4 ประจำปี พ.ศ. 2507 ตอนที่เข้าประกวด

โดยใช้ชื่อว่า ‘นวรักษ์ วัชรา’ ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับ ‘อาภัสรา หงสกุล’ ได้ตำแหน่งชนะเลิสอันดับที่ 1 ไปครองในปีนั้น

ส่วนรองนางสาวไทยอีก 3 คนคือ ‘อรัญญา นามวงษ์, ละอองดาว กิริยา และเสาวณีย์ วรปัญญาสกุล’ หลังจากนั้นเอง

‘เนาวรัตน์ วัชรา’ ก็ได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์เต็มตัว ได้แสดงภาพยนตร์ประมาณ 30 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะรับบท เป็นนางเอก

ผู้แสนดีน่าสงสาร และเจ้าน้ำ-ตา ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ แสดงหนังเรื่องแรกคือ ‘เดือนร้าว’ ปี พ.ศ. 2508 แสดงคู่กับ ‘มิตร ชัยบัญชา’

จากเรื่องนี้เองส่งผลให้ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหนังเรื่องแรกเลย และโด่งดังเป็นอย่างมากจากภาพยนตร์เรื่อง

‘แม่อายสะอื้น’ โดย ‘เนาวรัตน์ วัชรา’ รับบทเป็น ‘ดาวนิล’ นางเอกของเรื่อง ประกบคู่กับ ‘สมบัติ เมทะนี’ นอกจากนี้ ‘เนาวรัตน์ วัชรา’

ยังมีผลงานต่างๆเช่น ‘จุฬาตรีคูณ (2510), ขุนทาส (2513) แว่วเสียงซึง (2514), ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน (2514), จันทร์เพ็ญ (2515), แม่อายสะอื้น (2515), แคนลำโขง (2515), รักต้องห้าม (2515) ฯลฯ’