หากเอ่ยชื่อเต๋า สโรชา วาทิตตพันธ์ ภาพจำของคนวัย 30 อัพ เธอคือนางเอกยุค 90 ชื่อดัง ที่ปัจจุบันก็ยังคงเอาดีกับเส้นทางการเป็นนักแสดง แถมอาชีพเสริมคือ พิธีกรรายการทำอาหาร Saro Like Official และ

การเป็นแอ็คติ้งโค้ชสอนการแสดงที่เธอชอบสุดๆ ซึ่งตัวเต๋าเองก็ไม่ได้มีข่าวคาวหวือหวาเสียหายแต่อย่างใด หากแต่เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ตั้งใจกับการทำงาน พัฒนาฝีมือการแสดงไปเรื่อยๆ ไม่เคยเกี่ยงบท

โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตหลังแต่งงาน ของเธอและสามี (คุณเบอร์ – มนตรี ศิริชู ผู้บริหาร เจเอสแอล จำกัด ) ก็ยิ่งเรียบง่ายเข้าไปอีก หลังจากไปส่อง IG ของสาวเต๋า สโรชา เราถึงเพิ่งได้รู้ว่า บ้านเต๋า สโรชา

ซึ่งก็คือเรือนหอของเธอกับสามีนั้นจะสวยอะไรเบอร์นี้ บ้านสวยน่าอวดมากค่ะคุณขา อดใจไม่ไหวล่ะ ตามมาชมกันเลยล่ะกัน ตัวบ้านเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นสีขาวสไตล์โมเดิร์น ท่ามกลางสวนสีเขียวร่มรื่น ในหมู่บ้าน Courtyard Villa

บริเวณห้องโถงนี้ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมติดเพดานสีขาว ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ลงไฮกลอสสีขาว ติดตั้งประตูกระจกเพื่อเป็นช่องแสงเข้าบ้าน ส่วนด้านข้างเป็นประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อเปิดชมสวนเล็กๆ

ได้อย่างใกล้ชิด สนามหญ้าเน้นความเขียวเป็นหลัก เพาะเฟิน และลงหญ้ามาเลเซีย เนื่องจากหญ้ามาเลเซียดูแลง่าย ไม่ต้องตัดบ่อย ห้องนั่งเล่น ที่เน้นความคลีนตีช่องชั้นวางหนังสือ และเก็บแผ่นเสียงไวนิลสุดโปรด

ตามสไตล์สายติสท์ ห้องครัวน่ารักกุ๊กกิ๊ก น่าใช้มาก ติดตั้งราวแขวนอุปกรณ์ทำครัวอย่างเป็นระเบียบ หยิบจับง่าย ใช้สะดวก เนื่องจากสาวเต๋าเธอชอบทำครัวมาก โซนครัวนี้ สาวเต๋าเป็นคนออกแบบเอง

โดยมีคุณสามีเป็นคนวาดตามความต้องการของภรรยาคนสวย ตู้เคาน์เตอร์ในครัวเป็นบิวท์อินแบบบานเลื่อน ติดเครื่องดูดควันไว้เหนือเตา ที่มุมห้อง จัดว่าเป็นเรือนหอสวยๆ ที่ได้รับการจัดตกแต่งตามสไตล์ของเจ้าของบ้าน

ทั้งคู่อย่างเต็มที่ทุกมุมบ้านอีกหลังเลยทีเดียว ซึ๋งการแต่งบ้านตามฉบับสายมินิมอลนี้ จะเน้นความเบา โปร่ง เรียบง่าย เป็นหลัก การใช้สีขาว ทำให้บ้านดูโปร่ง สบายตา หากแต่อยากเติมความอบอุ่นเป็นกันเอง

มีชีวิตชีวาขึ้นอีกนิดก็ให้แต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ หรือ รายละเอียดตามส่วนต่างๆ ในบ้านด้วยวัสดุไม้สีธรรมชาติเป็นหลักก็จะอบอุ่นขึ้นเยอะทีเดียวค่ะ และหากย้อนกลับไปในวันที่เธอประกาศแต่งงานแบบฟ้าแล่บ

ทำเอาหลายคนตกใจกันไปตามๆ กัน ซึ่งเจ้าตัวออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า “ต้องขอโทษที่ไม่ได้เชิญใครนะคะ มันปุ๊ปปั๊ปก็เลยไม่ได้เชิญทั้งหมด ฤกษ์นี้ได้มามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทุกคนก็รับรู้ตอนแรกที่คุยกัน

ถ้าไม่ทันจริงๆก็จะเลื่อนไปอีก แต่ปรากฏว่าคุณยายก็ไม่สบายด้วยก็เลยจัดให้แกสบายใจ ก็เลยเตรียมงานกันแบบเล็กๆมาเรื่อยๆทำเองกันทุกอย่าง และก็เชิญคนน้อยมากไม่เกิน 50 คน หลักๆของการแต่งงานคือ

เพื่อให้เกียรติผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัว และตามประเพณีนิยมจุดประสงค์มีแค่นี้เอง สาเหตุที่ตกลงปลงใจกับคนนี้ ก็คงเป็นเพราะความดีค่ะ เป็นคนที่เข้ามาแล้วทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่หลงทาง ก็เลยคิดว่าที่ผ่านมาทำให้เรา

มาเจอกันวันนี้โดยที่เขารักแม่รักยายเราและก็รักทุกคนในครอบครัวของเราด้วย ซึ่งหลังแต่งคุณเเม่กับคุณยายก็ดีใจมาก ปลาบปลื้มแล้วก็พูดว่าขอบใจมากที่ทำให้ยายมีความสุข แค่นี้เราก็มีความสุข

จากนี้ก็ลุยงานเต็มที่ตามปกติ ส่วนเรื่องทายาทคงยังอะค่ะ แอบหวั่นอายุมากแล้ว ก็ยังคิดภาพตัวเองเลี้ยงน้องไม่ออกเลยและถ้าเกิดมีก็คิดว่าเราต้องได้หยุดงานแน่เลย แพลนฮันนีมูนเล็งไว้ช่วงสงกรานต์ที่ประเทศตุรกีค่ะ”