พูดได้ว่าความสามารถของเธอนั้นไม่มีสงสัยเเน่นอน สำหรับ รัดเกล้า อามระดิษ’ เจ้าของบทเพลงได้รับความนิยมในอดีต ‘ลมหายใจ’ และก็หลายๆเพลง นอกจากนี้เธอยังมีชื่อเสียงดีจากบท ‘นางแย้ม หมั่นกิจ’ จากละคร ‘สุดแค้นแสนรัก’ จากความโด่งดังทั้งยังจากบทบาทการเป็นนักร้อง และก็นักแสดง พวกเราคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเป็นนักแสดงรวมทั้งนักแสดงสุดคุณภาพอีกหนึ่งคนของเมืองไทย ที่ไม่ว่าจะจับไมค์หรือเล่นละคร ก็ทำออกมาได้ดีเสมอ

“เราเข้าวงการตั้งแต่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย สิ่งที่สอนก็คือ อันดับแรก เราเข้ามาในช่วงเวลาที่เราจะต้องไหว้ทุกคนเพราะว่าเรายังเด็ก เราได้ศึกษาตลอดเวลา วงการนี้สอนให้เราทราบดีว่า เราจะต้องเปิดรับ เราจำเป็นต้องไม่มีตัวตน

อย่าไปยึดติด ทุกๆอย่างเป็นกฎธรรมชาติ มันจะมีการเปลี่ยน แปลงตลอดเวลา ในที่สุดแล้วกฎธรรมชาติรวมทั้งกฎของพระพุทธ ศาสนาจะเป็นสิ่งเดียวกัน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกๆอย่างมีการเปลี่ยนแปลงเราน่าจะศึกษาและก็ปรับพฤติกรรม อย่าไปมีอนัตตา ถ้าหากสิ่งที่พี่ทำ หรือสิ่งที่พี่พูดให้คำแนะนำ ผ่านสื่อต่างๆจะเป็นประโยชน์กับน้องๆก็ถือว่าสิ่งที่พี่ทำมันจะเป็นตัวอย่าง

ที่ให้น้องได้เห็น อย่างเรื่องของการทุ่มเท ตั้งใจจริงกับการทำงาน มันมีผลดีเช่นไร แต่ว่าถ้าว่าทำงาน จนกระทั่งไม่สามารถที่จะปล่อยวาง ทำให้มันกินเวลาชีวิต สร้างผลลบให้กับคนรอบข้าง มันมีผลเสียยังไงน้องๆหรือคนรุ่นต่อๆไปจะได้เห็นแบบอย่างนี้ของพี่ ก็ต้องการที่จะให้นำไปปรับใช้ให้กำเนิดประโยชน์ เพียงเท่านี้พี่จัดว่าพี่แฮปปี้แล้วค่ะ พี่ว่าจังหวะชีวิตของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตอนที่เราไปทุ่มเท

กับงานเพลงหนักๆเราก็หายไปจากหน้าที่แสดงไปเลย เป็นเลือกที่จะไม่รับเลย แต่ว่าก็ไม่ถึงกับทิ้งเลย เป็นงานที่เรารักและก็เป็นงานที่เราเรียนมา ในตอน 10 ปีหลัง พอเราให้เวลากับงานแสดงเยอะขึ้น

พวกเราก็จะค่อนข้างหายไปจากงานเพลง คุณผู้ชมก็บางครั้งอาจจะมีความรู้สึกว่า คนนี้เขาร้องเพลงด้วยเหรอ เราก็ไม่ได้น้อยใจ แต่มันสำเร็จที่เรา จะต้องยอมรับ เรื่องชีวิตรัก ปัจจุบันนี้ไม่มีคู่ค่ะ อย่างที่พูดว่าเกิน 75 เปอร์เซ็นต์ ของเวลาในชีวิตอยู่กับงานทั้งปวง ก็เลยไม่ได้มีขณะที่จะไปสนใจหรือโฟกัสในเรื่องของความรัก ประกอบกับโดยส่วนตัวเราเป็นผู้ที่ไม่ได้เปิดกับคนที่ไม่รู้จัก ด้วยเหตุนี้โอกาสที่จะเปิดรับใครเข้ามามันก็เลยไม่มี

จะต้องใช้คำว่าไม่มีเลย แล้วเราก็เห็นว่าพวกเราอาจจะไม่ได้ทำบุญมา ในด้านคู่แต่งงาน แต่ว่าต่อนี้ไปเราจะรู้จักกันได้อย่างไร มันก็จะต้องมาจากการทำงานใช่ไหม แต่ว่าเราก็จะดูแต่ว่าเรื่องของการทำงานไปอีก เป็นเรา ยังมีความเป็นผู้หญิงในสมัยโบราณอยู่ เราจะไม่กล้าที่จะไปจีบใคร รวมทั้งด้วยวัยขนาดนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะมีคู่ครอง แล้วถ้าเกิดไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการ เรายิ่งไม่ได้มีความรู้สึกต้องการจะไปทำความรู้จักกับใคร

แล้วก็ที่สำคัญ เป็นเรามีความคิดว่าตัวเราไม่ได้มีเสน่ห์ เธอเป็นนักแสดงรวมทั้งดาราสุดคุณภาพอีกหนึ่งคนของเมืองไทย

ที่ไม่ว่าจะจับไมค์หรือเล่นละคร ไม่ว่าจะทำหน้าที่ไหนก็ทำออกมาได้ดีเสมอ

เพราะว่ามีความรู้สึกว่าคนในยุคปัจจุบันให้ความใส่ใจกับความพึงพอใจของตนเองเป็นหลัก

ต่อนี้ไปมันคือเรื่องของแต่ละคนแล้วก็ ปัจเจกมากๆว่า ผู้ใดกันผู้ใดพอใจกับสิ่งไหนในชีวิต บางคนพอใจในทางหน้าที่การงาน

บางสิ่งบางอย่างมันเลือกไม่ได้ บางอย่างเราก็เป็นคนกำหนดเองว่าเราเลือกแบบไหนไหน

ด้วยเหตุนี้ถ้าหากเราเลือกที่จะมีความสุขจากทางหน้าที่การงาน พี่ว่าทุกคนมีสิทธิ์อยู่แล้ว เราก็สามารถเลือกในสิ่งที่เราเลือกได้ค่ะ