Connect with us

Uncategorized

ปัจจุบัน เปิ้ล ชไมพร

Advertisement

อดีตนักแสดงหน้าลูกครึ่ง ที่โด่งดังมากๆ ในยุค 90 ไม่มีใครไม่รู้จัก ‘เปิ้ล ชไมพร สิทธิวรนันท์’ นางเอกสาวที่โด่งดังสุด ๆ หน้าตาสวยหวานคล้ายกับตุ๊กตา มีผลงานละครไม่ต่ำกว่า 20 เรื่อง

ที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตนางเอก หายจากวงการ ล่าเจ้าตัวได้เปิดใจถ่ายทอดความทรงจำแต่หนหลัง ถึงช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของเธอและผองเพื่อนนักแสดงในยุคที่ลูกครึ่งและวัยรุ่นครองความนิยมสูงที่สุด

เมื่อกว่า 25 ปีก่อน ณ ช่วงที่วงการบันเทิงไทยกำลังถูกครอบครองความนิยมด้วยกลุ่มนักแสดงรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่เป็นลูกครึ่งตามกระแสของยุคนั้น แต่ ‘เปิ้ล ชไมพร’ คือหนึ่งในนักแสดงหน้าใหม่

Advertisement

ที่มาแรงในวันนั้น ก่อนหน้าที่จะค่อย ๆ ขยับมาสู่การเป็นนางเอกละครอย่างเต็มตัว ซึ่งมองย้อนกลับไปนักแสดงสาวร่างเล็กคนนี้ก็เผยว่า “ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายด้วย

เรารู้สึกว่าการเข้าสู่วงการบันเทิงเป็นเรื่องยาก ต้องผ่านมาจากการเป็นตัวประกอบก่อน เดินไปเดินมาวันละ 200 ตอนนั้นอยู่ประมาณ ม.3 จากนั้นจึงมาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา เปิ้ล ชไมพร รำลึก

เสร็จแล้วเราไปสะดุดตาผู้กำกับ ‘อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์’ ก็ให้ไปแคสต์เรื่อง ‘ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด’ ขณะที่ก็มีถ่ายละครตามมา เรารู้จักแต่ตื่นมาแล้วไปทำงาน ชีวิตช่วงเด็กจะหายไป

Advertisement

ไม่มีคำว่าไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนการเรียนก็เปลี่ยนโรงเรียนไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็จบการศึกษานอกระบบ เพื่อรับงานแสดงได้ หากเปรียบเทียบกับเด็กสมัยนี้การเข้าสู่วงการดูจะง่ายมากเลย”

หลังจากที่อธิบายรายละเอียดความสมบุกสมบันของเส้นทางในวันนั้นกับ 2 พิธีกรสาวประจำรายการคือ ‘อ๋อม สกาวใจ พูนสวัสดิ์’ กับ ‘กระติ๊บ ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล’ แล้ว

ในวันนี้ นักแสดงสาวร่างเล็กยังได้กล่าวถึงความทรงจำสีจางของเธอต่อไปว่า “ความประทับใจยุคนั้นมีในทุก ๆ อย่างเลย เมื่อก่อนจะตามไปทำงานต้องใช้แพคลิงค์และโทรกลับ ส่วนเวลาไปกองถ่าย

Advertisement

ก็ใช้แผนที่แฟกซ์มา หลงไม่หลงก็ว่ากันอีกที” หลังจากที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงได้ราว 10 ปี ชื่อของ ‘เปิ้ล ชไมพร’ ก็ค่อย ๆ ห่ายหายไปจากหน้าจอไปทีละน้อย จากปัญหาสุขภาพ

ปัจจุบันผันตัวไปทำธุรกิจความงามเป็นหลัก ขณะที่ยังพอมีผลงานละครให้ได้ติดตามกันอยู่บ้าง รวมทั้งเคยทำพิธีกรช่องดาวเทียมในช่วงหลายปีหลังมานี้ให้แฟน ๆ ได้คลายความคิดถึงกันเป็นระยะ ๆ

“เราเป็นเด็กต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับแม่ พ่อจะ ไปทำงานต่างประเทศ ตัวเองก็เหมือนเป็นลูกหลงห่างกับพี่ประมาณ 10 ปี สอนเด็กๆเราก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อมีหลายบ้าน พอย้ายมากรุงเทพฯ

Advertisement

พ่อก็จะมีผู้หญิงคนนั้น คนนี้ ตอนนั้นประมาณ 10 ขวบ เรา เห็นภาพแม่แย่มาก เขาก็แยกทางกัน หลังจากนั้นเราก็ตั้งปณิธานไว้ว่าฉันไม่ชอยผู้ชายคนนี้มาก เราไม่พูด ตอนเจอกันหลัง

จากนั้นมันพูดอะไรไม่ออก เราก็ถามว่าป้าเป็นยังไงบ้าง พอเวลาผ่านไปมันก็คิดได้ว่าเป็นเรื่องของคนสองคนที่รักกัน แต่พอ หมดรักก็แยกย้าย เราก็เลยมาคุยกับพี่น้องว่าเราขอขมาป่าดีกว่า ที่ผ่านมา

เราอาจจะพูดไม่ดีก็อยากขออโหสีจากพ่อ ซึ่งตอน นั้นพี่ชายเป็นคนเริ่มขออโหสิกรรม พอถึงเราก็น้ำตาแตกเลย ป้าก็บอกว่าป้าอโหสิให้นะ หลังจากนั้นก็มีแวะเวียนไปเยี่ยม บ้าง แล้ว 3-6 เดือนท่านก็จากไป”

Advertisement
Advertisement

error: Content is protected !!