Connect with us

Uncategorized

ชีวิตล่าสุด ติ๊ก ฉัตรมงคล อดีตพระเอก

Advertisement

จะต้องบอกเลยว่าหายหน้าไปนานทีเดียว สำหรับอดีตพระเอกและก็นักแสดงชื่อดัง ติ๊ก ฉัตรมงคล บำเพ็ญ ที่เคยแจ้งเกิดสุดๆกับบท พี่ไม้ ในละครเรื่องดอกแก้ว เวอร์ชั่น กบ สุวนันท์ คงยิ่ง เป็นนางเอก แต่ว่าดังอยู่ดีๆชีวิตกลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ


เมื่อเจ้าตัวถูกจับเสพกัญชาจนกระทั่งโดนต้นสังกัดช่อง 7 แบนงาน 2 ปี จะต้องระเห็จตัวเองไปเป็นเด็กเสิร์ฟที่อเมริกา กลับมาถึงจะมีละครบ้างแต่ว่าก็ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนเดิม


โชคดีที่ ติ๊ก ไม่ใช่ดาราที่จมไม่ลง ถึงจะไม่มีงานและไม่ได้เป็นที่รู้จักมีคนรุมล้อมเอาอกเอาใจราวกับยุคเป็นศิลปินดังแต่ว่าเจ้าตัวก็ไม่น้อยเนื้อต่ำใจ พยายามดิ้นรนทำมาหากินด้วยอาชีพสุจริต

Advertisement


อีกทั้งไปเปิดท้ายขายของที่ตลาดนัดเมืองทองธานี ยิ่งกว่านั้นยังเคยรวมกลุ่มกับเพื่อนรับจ้างผลิตรายการ หลังจากนั้นติ๊กกลับมาเล่นละครในบทตัวร้ายหลังร้างจอไปนาน


เรื่อง คาดเชือก เปิดเผยทุ่มเทสุดตัวและก็หวังกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ฝันต้องการเป็นตัวตายตัวแทน ฤทธิ์ ลือชา เพราะเหตุว่าชื่นชมในความสามารถทางการแสดง แพลนบั้นปลายชีวิตจะผันตัวเองไปเป็นหมอดู


“ตอนนั้นผมเคยไปเปิดด้านหลังขายสินค้าที่ตลาดนัดเมืองทองคำ เมื่อนับเป็นเวลาหลายปีที่แล้ว เป็นงานที่ผมได้ทดลองทำมอง ในช่วงเวลานั้นขายสร้อยเลทที่เป็นทองสัมฤทธิ์แล้วก็รองเท้าสานของสตรี แต่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปแล้ว

Advertisement


เพราะว่าขายไม่ค่อยรุ่งเลยเลิกใครจะมองดูตกอับจะต้องมาขายของเปิดท้ายเป็นผมไม่ได้ดูตรงนั้น ไม่ได้อายที่จะงาน อย่างการที่ผมไปขายอย่างนั้นผมหวังต่อยอดขายส่งด้วย เวลาลูกค้ามาเห็นของเราแล้วเขาสั่งไปขายต่อ


เราไม่ได้หวังขายปลีกสิ่งเดียว ผมไม่สนใจว่าคนจะดูถูกเหยียดหยามเรามั้ย ผมต้องการทำให้เขาเห็นด้วยว่าเราขยันไม่เกี่ยงงาน พวกเรามีความรู้ความสามารถทำเป็นหลายๆอย่าง สายตาคนอื่นๆกำหนดชีวิตผมไม่ได้


มนุษย์เราจะต้องกินจะต้องใช้ถ้าเกิดจะมัวแต่กลัวว่าคนอื่นๆจะมองเรายังไงชีวิตมันจะยุ่งไปมั้ย ผมค่อนข้างคิดแผนชีวิตให้ตัวเองไม่ต้องการแบบว่าแก่ตัวไปแล้วโดนว่าได้ว่าเพียงแค่ค่ารักษาพยาบาลตัวเองยังไม่มีเลยปัจจุบันนี้

Advertisement


ผมขายของบนอีเบย์ ซึ่งรายได้ที่ได้มาก็สุดยอดเลยนะผมมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างยากจนอยู่แล้ว เติบโตมาพร้อมกับการจะต้องดิ้นรนอยู่แล้ว ไม่ใช่มาจากผู้ที่สุขสบาย ตอนเข้าวงการผมอายุ 20 กว่าแล้วนะ


วิถีชีวิตมันมีขึ้นมีลงมันคือเรื่องธรรดาของผู้คนนะ ผมเป็นผู้ที่รู้เรื่องความจริงชีวิต ในวันที่พวกเรามิได้โด่งดังหรือมีคนกลุ้มรุมดังเดิมมันก็เลยไม่ถึงกับขาก้าวไม่ออกมือไม้ไม่มีแรงมันไม่ใช่ครับผม


เหมือนที่มีคนเคยพูดไว้ว่าชีวิตจะต้องเดินไปข้างหน้าทุกวันมีน้อยก็ใช้น้อย การเป็นศิลปินก็เหมือนนักธุรกิจล่ะ ปีนี้เราอาจจะประสบความสำเร็จแต่ว่าปีหน้าเราอาจเจ๊งก็ได้ อย่างพระเอกบางคนก็ไม่ได้เป็นพระเอกตลอด ผมก็รู้เรื่องสัจธรรมตรงนี้”

Advertisement
Advertisement

error: Content is protected !!